11 December 2008

CHANEL Cruise Collection 2009 (Behind the sense)


CHANEL จัดงานแสดงคอลเล็กชั่น Cruise 2009 วันเดียวกับเฟนดิที่โพสต์ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งจัดเมื่อตอนกลางวัน แต่ชาเนลก็จัดกลางคืน ท่ามกลางข่าวลือมากมายก่ายกอง เดี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมืองที่เร้าร้อน ดีที่จัดบริเวณสระน้ำ จึงช่วยให้สถานการณ์ในงานเย็นขึ้นบ้าง

09 December 2008

FENDI Cruise Collection 2009


เปิดคอลเล็กชั่นรับร้อนปลายปี ด้วย Cruise 2009 ของแบรนด์ Fendi ที่ออกแบบโดยคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ไกเซอร์ของวงการแฟชั่น ที่กางแขนขาออกแบบเสื้อผ้าหลากหลายแบรนด์ สำหรับกระเป๋า เป็นหน้าที่ของสาวๆ ตระกูลเฟนดิ เป็นผู้ออกแบบเช่นเคย

08 December 2008

Schiffer VS Madonna




ในความหดหู่ของเศรษฐกิจ ที่กำลังคืบคลานเข้าไปสู่แบรนด์เนม (โดยเฉพาะ คาดการณ์ว่าแบรนด์เครื่องเฟชรจะได้รับผลกระทบมากสุด ...ถ้าไม่นับแฮร์รี่ วินสต้น ที่ถูกโจรกรรมครั้งใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส กลางกรุงปารีส กลางวันแสกๆ!!) ก็มีเรื่องที่ต้องตามติด คือการหวนกลับมาของซูเปอร์นางแบบอีกคนหนึ่ง (หลังจากที่มัวแต่ใช่นาโอมิ เสียจนพรุน) นั่นคือ Claudia Schiffer ที่ปีนี้อายุ 38 ปี แล้ว

01 December 2008

Mademoiselle Currency




ปีนี้ (2008) และปีหน้า (2009) อาจจะเป็นปีที่ไม่น่าจดจำสำหรับหลายๆ ประเทศ หลายๆ คน ทว่าสำหรับ Chanel แล้ว ปีนี้และปีหน้า ถือเป็นวาระอันมีความหมายยิ่งสำหรับแบรนด์ กล่าวคือปี 2008 คือปีที่ Gabrielle Bonheur 'Coco' Chanel มีอายุครบ 125 ปี (ถ้ายังมีชีวิตอยู่นะ) และปี 2009 คือปีที่ห้องเสื้อชาเนล จะมีอายุครบศตวรรษ

27 November 2008

โดยฉับพลัน !



"คนไทยจะฆ่ากันเองไม่ได้
ทุกอย่างต้องสงบโดยฉับพลัน"



พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
วันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๖

24 November 2008

Bill Blass deads again!!

ภายหลังการเสียชีวิตของ Bill Blass เจ้าตำนานอเมริกันแฟชั่นอีกผู้หนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ก็พลอยทำให้อนาคตของบริษัทดูมืดมนไปชั่วขณะ กระทั่งได้ Peter Som อัศวินขี่ม้าขาวมากู้สถานการณ์
แต่บัดนี้อัศวินก็ควบม้าขาวจากไปภายหลังเปิดตัวคอลเล็กชั่นฤดูร้อน 2009 ที่นิวยอร์กแฟชั่นวีคได้ไม่นาน หลังจากหมดสัญญาและยังไม่ได้ต่อสัญญา อันเนื่องจาก NextCen บริษัทแม่เจ้าของแบรนด์ บิลล์ บลาสส์ และแบรนด์บิลล์ บลาสส์ ต่างประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงินด้วยกันทั้งคู่ (เรียกง่ายๆ ว่าไม่มีตังค์จ้างปีเตอร์แล้ว)

20 November 2008

She is Sasha Fierce


อีกหนึ่งเครื่องแต่งกายที่ฮือฮาไม่แพ้เดรสของ มิเชล โอบาม่า ในคือวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ก็มาถึงเดรสสุดแสนล้ำ จากผลงานออกแบบของ Gareth Pugh ดีไซน์เนอร์ดาวรุ่งพุ่งแรง (สูง) จากอังกฤษ บนร่างของ Beyoncé (...ไม่สิ เวอร์ชั่นนี้ต้องเรียกเธอว่า Shasha Fierce) ในงานเอ็มทีวี ยุโรป มิวสิค อวอร์ด ที่เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ

17 November 2008

My Monogram (of course, I wish !!)




เก็บไว้เป็นการภายใน เฉพาะกับวีไอพีของแบรนด์ มาตั้งแต่ต้นปีนี้ เริ่มต้นจากญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก (อีกแล้ว!) จากนั้นจึงเดินทางไปแนะนำตัวกับลูกค้าวีไอพีประเทศต่างๆ รวมทั้งกรุงเทพ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

13 November 2008

Metallic Running



ขณะที่ปลายปีนี้ แฟชั่นยังไม่แน่ไม่นอนว่าจะไปทางสีทอง หรือสีเงินดี หากแน่นอนได้อย่างหนึ่งว่าแบรนด์สปอร์ตกลับมาฮิตเป็นพลุแตกอีกครั้ง ไม่ว่าจะรองเท้าหุ้มข้อแบบไฮเทค สวมกับกางเกงสกินนี่ หรือกางเกงทรงบอลลูนก็เข้าท่าทั้งสิ้น ให้กลิ่นอายของยุค’80s ควบ'90s เต็มที่

11 November 2008

สวัสดีเมืองไทย


ได้รับเมล์เหมือนเช่นปกติ แต่ครั้งนี้ไม่ปกติ เพราะ "สวัสดี เมืองไทย เราพูดไทย"

07 November 2008

A Dress to Kill

เดรสซาตินดำแขนกุด สีแดงไล่เฉดช่วงกลางตัว จับไข้วผ้าดำต่อจากเดรสเป็นโบช่วงเอว สวมทับด้วยคาร์ดิเก้นดำ ออกแบบโดย Narciso Rodriguez ดีไซน์เนอร์คนเก่งอีกคน ในยุคอเมริกันดีไซน์เนอร์บุกยุโรปเมื่อราวเกือบสิบปีมาแล้ว (ประกอบด้วย นาร์ซิโซ่ โรดริเกซ กับ Loewe, ไมเคิล คอร์ กับ Celine มาร์ก จาค๊อปส์ กับ Louis Vuitton และ ทอม ฟอร์ด กับ Gucci และ YSL ...หมดหรือยังเนี๊ยะ)

06 November 2008

Lacoste x Visionaire = Sport

Nick Knight
Karl Lagerfeld
Peter Lindbergh

Phil Poynter
เมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีปรากฏการณ์น่าตื่นเต้นเกิดขึ้น ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯ เมื่อ Lacoste ร่วมกับหนังสือ Visionaire สร้างสรรค์วิชั่นแนร์ ฉบับที่ 54 “Sport” และนำมาเปิดตัวในกรุงเทพ อันเป็นหนึ่งในโปรแกรมการเปิดตัวหนังสือฉบับล่าสุดไม่กี่ประเทศในเอเชีย

Change & Hope (What's next?)



"The road ahead will be long. Our climb will be steep. We may not get there in one year or even one term, but America -- I have never been more hopeful than I am tonight that we will get there. I promise you -- we as a people will get there,"


Congratuation, Mr. Obama - Mr. President!



tee by Marc Jacobs (www.marcjacobs.com)

04 November 2008

Halloween's Best Dress...Ever!!!



ตั้งแต่เห็นปาร์ตี้แฟนซีสำหรับเทศกาลฮาโลวีน ไม่เคยมีครั้งไหน และใครจะ 'Cool !' เท่านี้อีกแล้วว
"Heidi Klum Halloween Party" เมื่อคืนวันศุกร์ฮาโลวีน กลางกรุงนิวยอร์ก ไม่มีใครแต่งตัวได้เลิศเกินเจ้าภาพซูเปอร์โมเดล Heidi Klum ได้อีกแล้ว



ไฮดิ แต่งกายเป็นเจ้าแม่กาลีแบบครบองค์ทรงเครื่อง ตั้งแต่ศรีษะจรดเท้า ซึ่งก็ไม่รู้ว่าชาวฮินดูจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับการแต่งกายเช่นนี้

ขณะที่สามีนักร้อง Seal ดูจะมั่วๆ งงๆ นิดหน่อย เพราะบอกนักข่าวว่าเป็นนักรบ (อะไรสักอย่าง ฟังไม่ออก) รายงานข่าวบ้างก็บอกว่า เป็นเจงกิสข่าน แต่เรากลับเห็นเป็นองค์คุลีมาร เนื่องจากมีนิ้วมือห้อยรอบคอ ทว่าเสื้อผ้าดูจะไม่ค่อยเนียนไปกับเครื่องประดับ

ส่วน Pink แต่งกายเป็นตัวตลกแสนเศร้า (เศร้าตรงไหนเนี่ยะ!)



ฮาโลวีนปาร์ตี้ที่จัดโดยซูเปอร์โมเดลคนสวย มาพร้อมคอสตูมเลิศๆ เช่นนี้ทุกปี ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 9 แล้ว สำหรับปีหน้าครบทศวรรษ ใครๆ ก็หวังว่าจะต้องอลังกว่านี้แน่นอน ...เพราะช่วยไม่ได้ที่ปีนี้แต่งได้อลังการงานสร้างสุดๆ

เอาเป็นว่า ใครเลิศกว่านี้ ขอยลหน่อยเหอะ!

02 November 2008

Good Enough?



ผ่านชิบูยะ ย่านสุดเก๋ของชนเผ่าแฟชั่นโตเกียวตัวจริง ต้องแอบสะดุดตากับแสงสว่างพุ่งออกมาจาก Sounds Good ร้านใหม่ในเครือ United Arrows ที่เพิ่งจะประเดิมเปิดกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นับเป็นสาขาที่ 3 ต่อจากที่ Shinjuku (อยู่ในห้าง Lumine ตึก 2 เมื่อปี 2007) และ Harajuku (ตุลาคม 2007)

31 October 2008

Nightmare News


ข่าวนี้สำหรับ Halloween ปีนี้โดยเฉพาะ!! และโดยเฉพาะสำหรับแวดวงนิตยสาร และแฟชั่นอย่างเราท่าน!!

24 October 2008

Zaha Hadid & Co

ถ้าบอกว่าซีซั่นนี้ Rei Kawakubo แห่ง Comme des Garcons เป็น most wanted เป็นแขกรับเชิญสร้างสรรค์คอลเล็กชั่นพิเศษต่างๆ นานา ให้แก่แบรนด์เนม ทั้งไฮ และโลว์แบรนด์

ก็ต้องรวม Zaha Hadid ที่เหล่าแบรนด์เนมต่างดึงตัวไปร่วมสร้างสรรค์งานชิ้นพิเศษมากมายหลายเจ้า อันว่าฮาดิด คือสถาปนิกแห่งอนาคตเชื้อสายอิรัก เจ้าของรางวัล Pritzker Architecture คนแรกและคนเดียวที่เป็นผู้หญิง ศักดิ์ศรีของรางวัลนี้เปรียบได้กับโนเบลแห่งวงการสถาปัตยกรรม


21 October 2008

Tokyo is not enough !!!



อันที่จริง ต้องไม่ใช่โตเกียวสิ แต่เป็น Louis Vuitton ต่างหากที่ยังไม่พอ เพราะถึงตอนนี้วิตตองก็มีช้อปในโตเกียวถึง 11 แห่ง โดยเฉพาะที่กินซ่า มีช้อปวิตตองขนาดใหญ่เบิ้มเป็นแฟลกชิฟสโตร์อีกต่างหากถึง 2 แห่ง (flagship store คือช้อปที่จะมีสินค้าของแบรนด์นั้นๆ ครบทุกชนิด)

20 October 2008

A Night to Remember



คืนที่ผ่านมา เป็นปาร์ตี้ที่สนุกสุดของปีนี้ ที่มีโอกาสได้ร่วมงาน เหตุเพราะเป็นปาร์ตี้ที่เริ่มจากความเหนื่อยล้า จบลงด้วยความตระการตา ของแฟชั่นโชว์ครบรอบ 20 ปี ของห้องเสื้อ Zenithorial

พลันสิ้นเสียงปรบมือให้กับเจ้าภาพ ลูกบอลกระจกจำนวนมาก ก็เลื่อนลงมาจากเพดาน แสงไฟสาดส่อง เสียงดนตรีดังก้อง เนรมิตเต้นท์แฟชั่น ให้กลายเป็นเต้นท์ปาร์ตี้ และแคทวอล์ก กลายเป็นแดนซ์ฟลอร์ เพื่อร่วมฉลองในความสำเร็จของ ELLE Fashion Week ที่เดินทางมาครบทศวรรษ

มีโอกาสร่วมชมโชว์ตั้งแต่โชว์แรก ของปีแรก และ (อาฟเตอร์) ปาร์ตี้แรก ของ ELLE Bangkok Fashion Week ที่ต่อมาเหลือแค่ ELLE Fashion Week และเพิ่ม Autumn/Winter และ Spring-Summer เมื่อไม่นานนี้

ครั้งแรก เต้นท์แฟชั่นขนาดกะทัดรัดจัดขึ้นที่ ลานกว้างข้างศูนย์การค้า เกษร และอาคารเพรสซิเด้นท์ (รร.อินเตอร์คอนติเนนทอล ในปัจจุบัน) ต่อมาขยายความมหึมาของเต้นท์ ด้วยการย้านไปจัดที่ลานมรกต ห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล ชิดลม ที่อยู่ไม่ไกลกัน กระทั่งมาถึงเต้นท์แฟชั่นที่เห็นมาจนถึงปัจจุบัน ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

แอลล์ แฟชั่นวีค ถือว่าทำให้เกิดการแสดงแฟชั่นของนักออกแบบไทยอย่างเป็นระบบ ให้นักออกแบบไทย ได้มีเวทีแสดงการสร้างสรรค์เสื้อผ้าสุดสวยอย่างต่อเนื่อง และเป็นสร้างมาตรฐานการแสดงแฟชั่นโชว์ไทย ที่สำคัญ เวทีของแอลล์ แฟชั่นวีค มีโอกาสสร้างนักออกแบบไทยรุ่นใหม่ หลายต่อหลายคน ที่ต่อมากลายเป็นนักออกแบบที่มีชื่อเสียงจนทุกวันนี้

ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ทำให้วงการแฟชั่น เกิดการแข่งขัน ในด้านการสร้างสรรค์มากขึ้น ทั้งการสร้างสรรค์เสื้อผ้าและเครื่องประดับ การสร้างสรรค์รูปแบบโชว์ การพัฒนาของนางและนายแบบ และเป็นแรงกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ๆ สนใจในเรื่องของแฟชั่นมากขึ้น ทั้งในด้านการเรียน การถ่ายภาพ การเป็นสไตลิสต์ หรือแม้แต่การเป็นนักเขียนแฟชั่น

เกิดผลทางอ้อมอีกประการหนึ่ง และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชาวแฟชั่น คือการเรียนรู้แฟชั่นอย่างเป็นระบบระเบียบมากขึ้น จากแต่ก่อน ที่เราเคยรับแฟชั่นมาเพียงเปลือกนอก (เหมือนการสร้างตึกรามบ้านช่องในบ้านเรา สไตล์ใครสไตล์มันจนเกิดเป็นทัศนอุจจาด) แต่งกายโดยการตามกันแต่ง หรือแต่งตามที่เห็น โดยไม่รู้ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร - บัดนี้เริ่มมีกลุ่มคนที่ให้ความใสใจกับรากฐานของแฟชั่น ที่มาที่ไปของแฟชั่น ทั้งหมดเกิดการการเรียนรู้ และต้องรู้อย่างถ่องแท้ เช่นเดียวกับการวางรากฐานทางสังคมและการเมือง ก็ต้องเริ่มที่การเรียน มิฉะนั้น ต่อให้ปฏิรูป ปฏิวัติสักกี่ครั้ง ผลก็เหมือนเดิม ...เปลือก!!!

แฟชั่นโชว์ก็คือหนึ่งกลไกหลักแห่งแฟชั่น ไม่ว่าจะโชว์เล็กโชว์ใหญ่ ล้วนคือเวลาที่จะพิสูจน์ถึงความสามารถ และการแสดงออกถึงภาพลักษณ์ของสังคมนั้นๆ ด้วย

ขอแสดงความยินดีกับก้าวที่ 10 และก้าวต่อไปอย่างแข็งแกร่งของ ELLE Fashion Week

17 October 2008

COCO before CHANEL



ถ้าภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายเมืองไทย ก็ต้องได้ชมแน่นอน อย่างน้อยที่สุด Chanel ไทยแลนด์ก็ต้องจัดฉายรอบพิเศษสักรอบ แน่นอน

15 October 2008

Dior Homme Petite Taille Collection



สำหรับแฟน (ผู้หญิง) ของ Dior Homme โดยเฉพาะ...

เดิมดิออร์ ออม ตั้งแต่ครั้งออกแบบสุด slim โดย Hedi Slimane ก่อเกิดลูกค้ากลุ่มใหม่ของดิออร์ นั่นก็คือสาวๆ (ผู้หญิงน่ะ) หุ่นเพรียว เพราะแพทเทิร์นแบบเสื้อผู้ชาย ยังไงก็ต่างจากของผู้หญิง ผู้หญิงที่มาสวมเสื้อผ้าหนุ่ม โดยเฉพาะหนุ่มดิออร์ จึงทั้งเท่ และสวย (เอ๊ะ ยังไง)

ส่งไม้ผลัดมายังมือ Kris Van Assche ดีไซน์เปลี่ยนจากสลิมฟิต มาสู่รูปทรง V shape หมายความว่า ไหล่กว้าง เอวคอด ฉะนั้นต้องไม่ใช่แค่ผอมบางแบบสลิม แต่ต้องผอมและมีบอดี้ (โนพุง) ฤดูร้อนหน้า แวน แอซซ์ เพิ่มความสปอร์ต และสีสัน อย่างที่ไม่เคยใช้มากก่อน ซึ่งก็สนุกดี

โครงเสื้อรูปตัว V ก็เข้าทางสไตล์ทศวรรษที่ 80 สาวๆ ก็ยิ่งสบาย เพราะชอบเสื้อผ้าไหล่กว้าง เอวแคบ สังเกตว่า คอลเล็กชั่นฤดูหนาวนั้นทำได้นุ่มนวลเสียเหลือเกิน

ลูกเล่นของคอลเล็กชั่นฤดูหนาว หรือจะว่าไปก็ตั้งแต่แวน แอซซ์ เข้ามารับช่วงต่อ เปลี่ยนจากผึ้งตัวจ้อย มาเป็นผีเสื้อตัวเบิ้ม ทั้งโบไทรูปผีเสื้อ และเข็มปักรูปผีเสื้อ - ของประดับเหล่านี้นี่แหละที่เป็นสินค้ายอดนิยม โดยเฉพาะเข็มปักผีเสื้อ เป็นที่ฮิตของสาวๆ ทั่วโลก

เขียนมาหลายย่อหน้า จะบอกว่า ปี 2002 ดิออร์ ออม นำเสนอคอลเล็กชั่นพิเศษ 'Petite Taille' ที่ออกแบบสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ด้วยโครงที่นุ่มนวลขึ้น เซ็กซี่ขึ้น ไซส์เล็กลง ตามเสียงเรียกร้องของสาวๆ ทั้งปวง ทว่าไม่ได้จำหน่ายในทุกบูติก - ว่ากันว่าบูติกดิออร์ ออม นั้นมีน้อยอยู่แล้ว แต่หาคอลเล็กชั่นสุดพิเศษนี้ได้ยากเสียยิ่งกว่ายาก

อย่ากระนั้นเลย ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายนนี้ ณ ชั้น 4 แฟลกชิฟสโตร์ดิออร์ และดิออร์ ออม บนถนน Omotesando กรุงโตเกียว ดิออร์ ออม จะนำคอลเล็กชั่นพิเศษ 'Petite Taille' มาจัดแสดง และจำหน่ายเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในญี่ปุ่น และเอเชีย

ร่ายเสียยาว ไปดูของจริงกันดีกว่า

ปล. เคยขึ้นไปชั้น 4 นี้แล้วครั้งหนึ่ง เป็นห้องสำหรับจัดแสดงเสื้อผ้าสื่อมวลชน + ห้องจัดแสดงอเนกประสงค์ + ออฟฟิตดิออร์ ค่อนข้างอบอ้าว เนื่องจากหลอดไฟหลายดวง

10 October 2008

KVA mask



น้องที่รู้จักกัน เป็นแฟนแถวหน้าของ Dior Homme มาตั้งแต่ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์คนก่อน Hedi Slimane จนมาถึงคนปัจจุบัน Kris Van Assche ทั้งสองเหมือนกันตรงที่ 'ติสท์ พอกัน

03 October 2008

Gadget Parade


ปีนี้ เป็นปีที่เหล่า gadget คึกคัก สวนกระแสคลื่นสึนามิเศรษฐกิจ (ชอบคำนี้จัง) เพราะต่างมีทีเด็ด มุกเด็ด และดีไซน์ใหม่ๆ ของกั๊ดเจ็ดเทคโนโลยีมาให้ตื่นเต้นกันยกใหญ่ เอาแค่ปลายปีนี้ ก็มีของเด็ด ดีไซน์เก๋ มาอวดกันหลากหลายชิ้นที่เดียว แต่ขอเลือกมา 3 ชิ้นที่น่าสนใจ ในสไตล์ portable

01 October 2008

tokyo PICASSO









เดือนนี้ที่กรุงโตเกียว จะมีมหกรรมงานศิลป์ที่น่าจะเรียกว่าใหญ่สุดแห่งปี 2008

29 September 2008

Phoebe Philo for Celine



หลายคนทราบดีอยู่แล้ว เพราะสื่อทั่วโลกประโคมข่าวเรื่องที่ Phoebe Philo หวนสู่วงการแฟชั่นอีกครั้ง หลังบรรลุข้อตกลง เข้าเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แก่ห้องเสื้อ Celine ภายหลังที่ฟีบี้ บ้ายบาย ห้องเสื้อ Chloe และวงการแฟชั่นชั่วคราวเพื่อไปรับหน้าที่คุณแม่คนใหม่

25 September 2008

KB

กะแล้วว่าต้องได้เห็นตัวจริงในที่สุด เพราะยุคนบ้าหมีแบรนด์เนมให้ซื้อหามาไว้ในคอลเล็กชั่นโดยด่วน และแล้วน้องหมี ก็มุ่งหน้าจาก Colette ปารีส มาถึง Zenithorial บางกอก

ออกจากกล่องก็เชิดใส่ซะงั้น!

22 September 2008

H&M Tokyo


ไปก่อนวันเปิดร้าน 13 กันยายน ที่เพิ่งผ่านไป H&M สาขาแรกในโตเกียว (และญี่ปุ่น) บนโลเกชั่นใจกล้าท้าทาย ณ ย่านกินซ่าสุดหรูของกรุงโตเกียว แน่นอนว่าเหล่าหนุ่มสาวทั้งแนวและไม่แนว แห่แหนกันไป 'เข้าคิว' ดังเช่นทุกครั้งที่มีของใหม่ในญี่ปุ่น

ก่อนหน้าร้านเปิด H&M ปูพรมโฆมโฆษณาดังเช่นที่ทำเป็นปกติในทุกประเทศ บิลบอร์ดที่แน่นล้นบนชิบูยะ ยังมีแอด H&M เบียดแทรกเข้าไปได้ (ในรูปถ่ายจากอีกฝั่งของสถานีรถไฟ)

ดูจากรูปการณ์ ประชากรญี่ปุ่นไม่ได้ฮือฮาอย่างที่คิด ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะประชากรญี่ปุ่นก็แต่งตัวได้เปรี้ยวไม่แพ้ความเปรี้ยวจากดีไซน์ของ H&M สำหรับเรื่องราคาไม่ใช่ปัญหา ถูกแพงคงไม่สำคัญเท่าใด ความแปลกสิเก๋กว่า

คงต้องรอเวลาช้อปแตก ณ วันเปิดช้อปใหม่กลางฮาราจูกุ โลเกชั่นเด็ดดวงเพื่อนบ้านกับ Laforet ซ้ำในวันเปิดร้าน (เดือนพฤศจิกายน) จะเป็นวันแรกจำหน่าย Comme des Garcons for H&M แห่งแรกในโลก ซึ่งคาดว่าช้อปคงแตก เช่นเดียวกับที่กินซ่า และที่อื่นๆ ทั่วโลก

อัพเดต H&M บุกโตเกียวกันต่อที่ http://www.hm.com/jp_en/#/tokyo08/

18 September 2008

Birkenstock catalog




ข้างกล่อง Birkenstock แต่ละกล่อง มีแบบร่างรองเท้าสัญชาติเยอรมันยี่ห้อนี้ เรียกว่าทุกแบบที่มี และแม้จะมีแบบไม่มากมาย ไม่วุ่นวายเยอะแยะ แต่ Birkenstock ก็ยังคงเป็นที่นิยมของทุกชน โดยเฉพาะในช่วงยุค'70s สไตล์เรียบง่ายจึงเป็นที่นิยมของเหล่าบุปผาชนเรื่อยมา

16 September 2008

Who's that girl ???






taken from Louis Vuitton at Comme des Garçons opening party

13 September 2008

Louis Vuitton at Comme des Garçons Part III


คืนวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา ได้รับเชิญไปร่วมงานเปิดร้าน Louis Vuitton at Comme des Garçons บนถนนค็อตโตะ ณ ย่านอาโอยาม่า กรุงโตเกียว

ไปถึงก็สายแล้ว เพราะเหล่าเซเล็บ และสื่อมวลชนทยอยออกจากร้านเพื่อไปยังปาร์ตี้ ณ สถานที่เร้นลับ (ตามที่บัตรเชิญว่าไว้) อย่างไรก็ขอเข้าไปยลโฉมความอลังการที่ได้เห็นภายนอกเมื่อช่วงเช้า ซึ่งก็ไม่ใช่อย่างที่คิดเอาไว้เลย


เข้ามาข้างในประตู นอกจากพบความเรียบ และความขาวของสถานที่ ก็จะเห็นเคาน์เตอร์ปูนอยู่ขวามือ ข้างๆ ขวามือคือบันไดทางขึ้นชั้นสอง และห้องกระจกอยู่ซ้ายมือ ภายในห้องกระจกมีกระเป๋าเดินทางโมโนแกรมตั้งอยู่ 9 ใบ รอบข้างห้องกระจกนั่นคือผนัง และแท่นวางสินค้า สีทองพิมพ์ลายโมโนแกรมสีขาว


ทั้งบนแท่นว่างสินค้า และบนผนัง ต่างเจาะรูเอาไว้พอเหมาะพอเจาะกับกระเป๋า 6 ใบไฮไลต์อย่างกลมกลืน ดุจงานศิลปะในกรอบภาพ และแท่นวาง


ได้เห็นของจริงทั้ง 6 ใบอย่างใกล้ชิด พบว่า

1. ในและนอกกระเป๋า ไม่มีป้ายบ่งบอกความพิเศษของกระเป๋าคอลเล็กชั่นนี้

2. ใบที่คาวาคูโบสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ มีขนาดราวฝ่ามือ พร้อมหูจับขนาดยาวพิเศษ ซึ่งมิอาจใส่ของอะไรได้มากมาย นอกจากเศษสตางค์ บัตรเครดิต ลิปสติก หรือโทรศัพท์มือถือขนาดเล็ก เพราะคาวาคูโบได้แรงบันดาลใจจากกระเป๋าใส่เศษสตางค์ นำมาปรับเป็นกระเป๋าสำหรับไปงานราตรี หรือปาร์ตี้ ความหมายโดยนัยคือเพื่อเฉลิมฉลอง 30 ปี ช้อปวิตตองแห่งแรกในญี่ปุ่น


3. และกระเป๋าสองใบที่คาวาคูโบสร้างสรรค์ใหม่ คือใบที่งามที่สุด จากทั้งสิ้น 6 ใบ

4. กระเป๋าอีกสองใบ ที่คาวาคูโบปรับแต่ง ปรุงโฉม ก็น่ารักสมชื่อ ใบปาปิญองเหมาะใช้งานจริง ส่วนใบมินิ แม้จะดูใช้ยาก แต่ก็สามารถใช้งานได้จริง ไม่ยากอย่างที่คิดนัก

5. กระเป๋าสองใบสุดท้าย ที่นำของเก่ามาขายใหม่ หมายถึงเป็นสองใบที่วิตตองไม่ได้ทำแล้ว ที่ขายอยู่ในช้อปวิตตองทั่วไป เป็นแบบที่ประยุกต์ โดยเพิ่มขอบหนังบนฐานกระเป๋าทั้งสองข้าง ฉะนั้นสองใบในคอลเล็กชั่นนี้ ก็จะดูเก๋าเก๋กว่าปัจจุบัน


6. ตุ๊กตา 'Kawaeii' ทั้ง 3 ตัว ที่ห้อยอยู่บนหูกระเป๋าปาปิญอง 'น่ารัก' สมชื่อ แต่ก็ยังดูไม่ออกอยู่ดีว่าเป็นตัวอะไรบ้าง (พอจะคล้ายค้างคาวตัวนึงล่ะ)

ชั้นบนตั้งหีบเดินทางโบราณไว้ 3 ใบ ซึ่งก็น่าเป็นเข้าของทั้งสามใบ ไม่มีอะไรอย่างอื่นนอกจากนี้ และไม่สามรถจะขอซื้อหีบทั้งสามใบได้ และวันเปิดงานก็ไม่สามารถซื้อหรือจองกระเป๋าได้ หมายความว่าให้อย่างเดียว


เดินชมจนหน่ำใจก็ถึงคราวปาร์ตี้ ซึ่งสถานที่ลับนั้น อยู่ห้างไปราว 20 เมตร เดิมเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ สำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ ทว่ามีขนาดเล็ก พอๆ กับร้านกอมม์ ซึ่งก็พอดีกับจำนวนผู้ร่วมงาน ที่จะได้รับเชิญในจำนวนจำกัด และพิเศษสุดเท่านั้น


เดินลงไปพบกับภาพวิชชวลที่คาวาคูโบทำเพื่อโปรโมตกระเป๋าปาร์ตี้ที่เธอออกแบบ แล้วจึงพบห้องจัดงาน ฝั่งหนึ่งของกำแพงฉายแฟชั่นโชว์คอลเล็กชั่นกอมม์เดอการ์ฌองส์ ในอดีตเรื่อยมา ฝั่งตรงข้ามฉายภาพประวัติและคอลเล็กชั่นกระเป๋าและเครื่องประดับหลุยส์ วิตตอง กำแพงหว่างสองข้าง ก็ยิงภาพกราฟิกลวดลายโมโนแกรม


ซึ่งงานก็มีเท่านั้น ปาร์ตี้ กินดื่มอีกแล้ว แต่ที่สำคัญเป็นงานรวมตัวของเหล่าบรรณาธิการนิตยสารแฟชั่นชั้นนำของญี่ปุ่นทุกเล่ม รวมทั้งซีอีโอและประธาน หลุยส์ วิตตอง รวมทั้งผู้ก่อตั้ง และดีไซน์เนอร์ กอมม์ เดอ การ์ฌองส์ด้วย!!


อ่านเรื่องทั้งหมดได้ในนิตยสาร LIPS เร็วๆ นี้

11 September 2008

iPod knows Thai!!



อันที่จริง ไม่ต้องเขียนถึงไอพ๊อดนาโนตัวใหม่ที่ตั้งชื่อเก๋ไก๋ iPod Nano – Chromatic เพราะทุกสื่อทุกแขนงก็คงลงเรื่องราวของไอพ๊อดใหม่นี้กันไปหมดแล้ว ว่าเลิศเลอ และมีลูกเล่นอะไรกันบ้าง

10 September 2008

Louis Vuitton at Comme des Garçons Part II


ร้าน Comme des Garçons บนถนนค็อตโตะขนาดสองสั้น เพดานเตี้ย พื้นที่กะทัดรัด ปูด้วยอิฐบล็อกสีน้ำตาลแดง ดิสเพลย์ขนาดพอดี ทางเข้าด้านข้าง ตั้งใจออกแบบให้เรียบที่สุด กระทั่งป้ายร้านก็ไม่มี ประตูทางเข้า ก็เหมือนประตูหนีไฟแสนธรรมดา ภายในแทบจะไม่มีการตกแต่งใดๆ ฉาบปูนเปลือย บันไดโลหะ