22 May 2009

Passion for Creation Part II


วันนี้ (พฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม) เป็นวันที่เปิดให้สื่อมวลชนเข้าชม แถลงข่าวเปิดนิทรรศการ 'Louis Vuitton: A Passion for Creation' และสัมภาษณ์ในตอนบ่าย ตอนเย็นเป็นการเปิดงานอย่างเป็นทางการ ก่อนจะไปถึงไหนต่อไหน ก็มาดูใครเป็นใครกันก่อนดีกว่า
เริ่มต้นจากการเดินทางสู่หอศิลป์ฮ่องกง ตั้งอยู่ตรงข้ามโรงแรมเพนนินซูล่า ฝั่งเกาลูน เขาห่อตึกด้วยงานของริชาร์ด ปริ้นซ์ ให้ชื่อผลงานว่า 'After Dark' งานชิ้นนี้เป็นการเลียนแบบปกหนังสือนิยายประโลมโลกหลายๆ ซีรียส์ที่ชื่ออาฟเตอร์ดาร์ก ของหลายๆ เมืองสำคัญ รวมทั้งฮ่องกง (แบงคอกล่ะ? ติดตามคำเฉลยครั้งต่อๆ ไป) อันเป็นผลงานที่สร้างสรรค์ต่อเนื่องจากงานภาพพิมพ์ของริชาร์ด ที่เจ้าตัวออกแบบเป็นผ้าใบของเต้นท์แสดงแฟชั่นโชว์คอลเล็กชั่นเสื้อผ้า หลุยส์ วิตตอง เมื่อฤดูร้อน 2008 แล้วจึงมาห่อตึกศิลปะแห่งนี้

นอกจากไฮไลต์จะเป็นงานเอ้าต์ดอร์ของ ริชาร์ด ปริ้นซ์ ที่กล่าวถึงไปแล้ว ภายในยังมีงานชิ้นโบแดงของศิลปินดูโอรุ่นใหญ่ กิลเบิร์ต & จอร์ช ว้าว!!!
ตอนแถลงข่าวงานนิทรรศการครั้งนี้ ก็ได้มีการเชิญศิลปินตัวแม่ทั้งหลาย มาร่วมงานแถลงข่าวด้วย อย่ากระนั้นเลย แอบแคนดิตมาให้เห็นหน้าค่าตาของพวกเขาทั้งหลาย ก่อนจะเอางานของเขามาให้ชมกันในครั้งต่อๆๆๆๆๆ ไป (ท่าทางเรื่องนี้จะอีกยาว)

รูปบน - คนซ้ายมือคือคุณอีฟว์ คาร์เซลล์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารหลุยส์ วิตตอง (ทั้งโลก!) จะเป็นรองก็แค่คุณเบอนาร์ต อาร์โนลด์ ประธานของกลุ่มบริษัท LVMH มหาอาณาจักรแฟชั่น และของมึนเมา ส่วนคนซ้ายมือคือศิลปินคู่บุญของวิตตอง นั่นคือ ทาคาชิ มูราคามิ นั่นเอง และเป็นคนที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดในงาน รวมทั้งใครๆ ก็อยากถ่ายภาพคู่เขา

รูปบนอีกเช่นเคย คนกลางคือ ริชาร์ด ปริ้นต์ ที่มีคนบอกว่าหน้าพี่แกโหดมาก เหมือนฮัลนิบาล เล็กเตอร์ ยังไงยังงั้น ซึ่งก็ดูเข้ากับงานสร้างสรรค์ของเขาจริงๆ และด้วยเหตุที่หน้าเหี้ยม พูดน้อย ไม่ค่อยสุงสิงใคร ทำให้เป็นศิลปินที่ถูกถ่ายภาพน้อยที่สุด (เพราะแต่ละคน รวมถึงผมด้วย ก็เกรงๆ กลัวๆ เขากันทั้งนั้น) ส่วนผู้หญิงคนขวามือคือภัณฑารักษ์ของงานนี้
รูปบน - สองท่านที่สวมสูทสีน้ำตาลอ่อน คือศิลปินดูโอที่ดังที่สุดคู่หนึ่งในยุค'80s นั่นคือ กิลเบิร์ต & จอร์ช คุณลุงทั้งสองสุดแสนจะอารมณ์ดี และมีแนวคิดที่ไม่เหมือนใครแบบสุดขั้วทีเดียวเชียว
รูปบน - ท่านนี้ผมจำไม่ได้ว่าคือใคร เดี๋ยวนึกออก หรือค้นเจอ จะมาเฉลยให้ทราบ ขอโทษด้วย
และท่านสุดท้าย (ภาพบน) คนที่สองจากซ้าย ท่านคือสถาปนิกที่ยิ่งใหญ่แห่งยุค เจ้าของผลงานอาคารมูลนิธิหลุยส์ วิตตอง เพื่อการสร้างสรรค์ ที่ตั้งอยู่ชานกรุงปารีส จะแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 2012 คุณอีฟว์กล่าวว่าผลงานของ คุณแฟรงก์ เกรีห์ จะเป็นความยิ่งใหญ่และมหัศจรรย์ของฝรั่งเศสต่อจากหอไอเฟลเลยทีเดียว
เห็นโมเดลอาคารมูลนิธิฯ แล้วก็ต้องบอกว่าอึ้ง ทึ่ง จริงๆ
ไปล่ะ อีกสิบ - ยี่สิบชั่วโมงจะมาอัพเดตต่อ...

No comments: