19 July 2008

Lacoste 75th Anniversary: Sport Elegance



ใครที่ได้ชมแฟชั่นโชว์ คอลเล็กชั่นฤดูร้อน 2008 ของ Lacoste ที่กรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา คงจะได้เห็นโลโก้รูปตราโล่ประจำตระกูล และสัญลักษณ์แบรนด์ลาคอสท์ โลโก้ จระเข้ และตัวเลข 75 เข้าใจได้ทันทีว่าปีนี้ ลาคอสท์ กำเนิดขึ้นทั้งในวงการกีฬาและแฟชั่นครบ 75 ปี



และเป็นปีที่ 75 ที่ใครๆ ต่างติดตาม และได้รับความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ไม่แพ้เมื่อเริ่มต้นแบรนด์โดยแชมป์เปี้ยนเทนนิสระดับตำนานอย่าง เรอเน่ ลาคอสท์ (Rene Lacoste)



กว่า 8 ทศวรรษที่แล้ว ที่เรอเน่ ลาคอสท์ ได้สร้างตำนานให้กับวงการเทนนิสโลก ด้วยการเป็นแชมป์รายการ Devis Cup โดยเข้าร่วมทีม Musketteers ถึง 3 สมัย แชมป์เทนนิสโลก ที่ประเทศฝรั่งเศสถึง 3 ครั้ง แชมป์ Wimbledon อีก 2 สมัย รวมทั้งแชมป์เปี้ยนรายการ US Open ถึงสองสมัย

แต่จุดเริ่มต้นของแบรนด์ ลาคอสท์ และ จระเข้ เกิดขึ้นเมื่อปี 1927 เมื่อนักข่าวกีฬาชาวอเมริกัน ให้ฉายา เรอเน่ว่า ‘จระเข้ผู้น่ารัก’ (The Alligator) เนื่องจากภายหลังที่เขาได้รับชัยชนะที่วิมเบิลดัน เรอเน่ท้าพนันกับโค้ชทีมฝรั่งเศส ในขณะแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เดวิส คัพ ว่าถ้าหากสามารถนำชัยชนะมาสู่ทีมได้ โค้ชจะมอบกระเป๋าเดินทางหนังจระเข้ให้



กอรปกับความอดทน และความพยายามอย่างไม่ลดละ ในการแข่งขันเทนนิส ที่ไม่ยอมให้คู่แข่งชนะได้แม้แต่ครั้งเดียว รวมทั้งสไตล์การเล่นที่แม่ยำ เข้มแข็ง และดุดัน ประดุจจระเข้ที่ไม่ยอมหยุดล่าเหยื่อ กระทั่ง โรเบิร์ต จอร์ช เพื่อนสนิทของเรอเน่ บรรจงวาดรูปจระเข้ลงบนเสื้อที่เขาจะสวมลงสนามแข่งทุกครั้ง จึงเป็นต้นกำเนิดสัญลักษณ์จระเข้ และฉายา จระเข้ผู้น่ารัก ทุกครั้งที่เรอเน่แข่งเทนนิส



นอกจากนี้ เรอเน่ ได้แต่งงานกับ Simone Thion De La Chaume อดีตนักกอล์ฟแชมเปี้ยนการแข่งขัน British Golf Open อันเป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ทำให้แบรนด์ลาคอสท์ ได้รับความนิยมทั้งในวงการเทนนิส และกอล์ฟ ที่ถือเป็นกีฬาของชนชั้นสูงในขณะนั้น จึงทำให้ลากอส เป็นแบรนด์เสื้อผ้ากีฬาของชนชั้นสูงไปโดยปริยาย

ปี 1933 เรอเน่ ลาคอสท์ ร่วมกับหุ้นส่วนคนสำคัญ Andre Gillier เจ้าของโรงงานสิ่งทองที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส ก่อตั้งบริษัท Le Chemise Lacoste เพื่อผลิตเสื้อผ้า ที่มีลายปักจระเข้แบบเดียวกับที่เรอเน่ ใช้ในการแข่งขันเทนนิส เริ่มแรกจึงเป็นเสื้อผ้าสำหรับใส่เล่นเทนนิสเท่านั้น



นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่ลาคอสท์ เปิดตัวเสื้อโปโล ที่ทอจากผ้าปีเก้ (Pique) อันเป็นผ้าทอเทคนิคเฉพาะของลาคอสท์ ที่ต่อมาได้กลายเป็นมาตรฐานแก่เสื้อโปโลทุกแบบ ทุกแบรนด์ ทั่วโลก และถือว่าเสื้อโปโลเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการแต่งกายของนักเทนนิสสมัยนั้น จากที่นิยมสวมเสื้อแขนยาว แต่เสื้อเทนนิสของลาคอสท์ยุคแรก เป็นเสื้อสีขาวแขนสั้น ปกเสื้อเป็นรอยหยัก ตัวเสื้อผลิตจากผ้ายืด คุณภาพเนื้อทนทาน และเบาสบายขณะสวมใส่



ไม่เพียงแต่เรอเน่ ลาคอสท์ จะให้กำเนิดแบรนด์สปอร์ตชั้นสูง แต่เรอเน่เอง ยังถือเป็นนักประดิษฐ์ และผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมทั้งแก่การกีฬา และแฟชั่น ยกตัวอย่างเช่น กริบจับแร๊กเก็ต และแร๊กเก็ต โดยการนำผ้ายางเหนียวหลายร้อยมวนจากอเมริกาเพื่อพันรอบที่จับ วิธีนี้ได้รับความนิยมและแพร่หลายมาจนทุกวันนี้

รวมทั้งเครื่องฝึกซ้อมยิงลูกเทนนิสออกมาได้ ทั้งยังเป็นผู้ปฏิวัติสู่การใช้แร๊กเก็ตเหล็ก (ที่รู้จักกันจากการจำหน่ายในอเมริกาภายใต้ชื่อ Wilson) ทำให้การผูกขาดแร๊กเก็ตไม้เพียงอย่างเดียวสิ้นสุดลงไป และที่กลายมาเป็นไอเท็มฮิตของปีนี้ก็คือ รองเท้ากีฬาผ้าคอตต้อนลายก้างปลาแฮร์ริ่ง ที่นำเสนอเมื่อช่วงทศวรรษที่ 60 กลายเป็นหนึ่งในแบบรองเท้ากีฬาคลาสสิกเช่นเดียวกับ all star ของคอนเวิร์ส



ย้อนกลับมาที่แฟชั่นโชว์ล่าสุด ”คอลเล็กชั่นนี้ สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อยกย่องผู้ให้กำเนิดแบรนด์”อเน่กิดขึ้นเมื่อปี 1927 Christophe Lemaire ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ และดีไซน์เนอร์ของลาคอสท์ กล่าวถึงคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิและร้อน 2008 “ผมได้แรงบันดาลใจจากวิถีความเป็นไปของลากอสที่ทันสมัย และดูสง่างามในแบบสปอร์ต”



คอลเล็กชั่นนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปี ของแบรนด์ลาคอสท์โดยมุ่งไปยังไลฟ์สไตล์ของ เรอเน่ ลาคอสท์ และครอบครัวของเขา โดยได้แรงบันดาลใจสำคัญจากกีฬา เปอโลต บาสก์ ที่เป็นกีฬาต้นแบบของการแข่งขันเทนนิส โดยตัวเวทีจำลองมาจากคอร์ทเทนนิสรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า พร้อมตีเส้นตามแนวตั้ง 2 เส้น และแน่นอนสัญลักษณ์ 75 ปี ลาคอสท์บนผนัง



โชว์เริ่มต้นด้วยคอลเล็กชั่นพิเศษ เพื่อรำลึกถึงเรอเน่ ลาคอสท์ โดยมีรูปโลโก้จระเข้สีขาวหม่นขนาดใหญ่ ที่ปรับปรุงจากภาพวาดแรกเริ่มโดย โรเบิร์ต จอร์จ ตั้งแต่เมื่อปี 1927 ประดับบนตัวเสื้อ โดยเน้นเนื้อผ้าลินินสีขาว ปลายปกสีเทา กางเกงขายาวคาดเข็มขัดบาส์กสีแดงสด รองเท้าผาใบแบบคลาสสิกผูกเชือกถึงน่อง สำหรับสตรีจะเป็นผ้าคล้องคอสีแดง หรือดำ สวมกับรองเท้าส้นสูง หรือเสื้อโปโลแขนกุดพร้อมชุดกระโปรงเทนนิสสั้นจับจีบกว้าง




ต่อด้วยเสื้อผ้าสียีนฟอก และสีพาสเทล รวมทั้งชุดกะลาสี จับคู่กางเกงกะลาสีเอวสูงเข้ากับเสื้อโปโลลายทาง เสื้อโปโล พร้อมกับชุดว่ายน้ำและเสื้อผ้าลายจุด ต่อด้วยเสื้อรักบี้ และเสื้อโปโลพิมพ์ลายธงทะเล ปิดท้ายด้วยคอลเล็กชั่นที่เต็มไปด้วยสีสันตระการตา ทั้ง ส้ม เหลือง แดง น้ำเงิน และชมพู



ด้วยเหตุผลที่ลาคอสท์ เริ่มต้นจากเพียงเสื้อโปโลสีขาวแบบเรียบ แต่ปัจจุบัน ลาคอสท์ กลายเป็นแบรนด์ระดับโลก “กุญแจแห่งความสำเร็จอขงลากกอสจนถึงทุกวันนี้คือการยึดมั่นในสิ่งที่สืบทอดมาแต่งดั้งเดิม แต่เราก็ต้องสร้างสรรค์เสื้อผ้ารูปแบบใหม่ สดใส และเข้ากับยุคสมัยอยู่เสมอ” คริสตอฟ เลอแมร์ อธิบายถึงสีสันละลานตาในช่วงท้ายของโชว์




ทิ้งท้ายด้วยสีสัน เพื่อให้รู้ว่า โลกของลากอส หลายหลาย และเข้าได้กับทุกชนชาติ สีผิว และวัฒนธรรม ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมให้แก่ทั้งวงการแฟชั่น และกีฬา เรื่อยไป




(column: Insight Special, LIPS Magazine 9/22)

2 comments:

tob said...

ชอบอ่านจังพี่อ่านแล้วมีประโยชน์

Anonymous said...

ขอบคุณค่ะ สำหรับบทความดี ๆ