22 June 2016

พาชม Pre-Fall 2016 ณ ร้านใหม่ Issey Miyake



Issey Miyake ปรับโฉม ขยายร่าง กลายเป็นแฟล็กชิฟสโตร์แห่งแรก และแห่งเดียวที่สยามดิสคัฟเวอรี่ ใหญ่โตขนาด  2 ชั้น และครบทุกไลน์ของอิซเซ่ มิยาเกะ เฮ้ย ขนาดนั้นเลยหรอ? ใช่ล่ะ ขนาดนั้นเลย เพราะแฟนคลับเยอะมากเยอะจริง อย่างกระนั้นเลย ตามมาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรดีนักดีหนา



ก่อนอื่นต้องแก้ตัวก่อนว่า คอนเทนต์นี้ดองไว้ตั้งแต่เมื่อต้นเดือน เพราะแวะเวียนไปร้านปุ๊บ ไข้หวัดใหญ่เล่นงานปั๊บ นอนซมไปสองวีค จนได้ฤกษ์เขียน ก็ทราบว่า่ทางร้านเขามีคอลเล็กชั่นใหม่เข้ามาแล้ว จึงต้องกลับไปอัพเดตกันใหม่



เอาล่ะ ร้านนี้ออกแบบให้โปร่งโล่ง เรียบและง่าย โดย Tokujin Yoshioka (เอาจริง ทุกสาขาแทบทั่วโลกก็ฝีมือคนนี้แหละ) ทำให้เสื้อผ้า และสินค้าโดดเด่นยิ่งขึ้น โดยชั้น G เขาให้เป็นพื้นที่สำหรับสาวๆ มาเต็มจัดครบทั้ง Issey Miyake, 132.5, Bao Bao, Pleats Please และ me



ไลน์หลัก Issey Miyake ตอนนี้เป็น Pre-Fall 2016 แล้ว มาในโทนสีน้ำเงินแห่งพื้นน้ำ ก้อนเมฆ ท้องฟ้า และดวงดาว อันเป็นภาพถ่ายทางอวกาศที่ได้จากนาซ่า เรียกว่าสวมชุดแล้วพร้อมบิน



ถัดมา ณ ทางเข้าร้าน เห็นผ้าพับไว้ในทรงแปลกๆ กองไว้บนโต๊ะ อันนี้เป็นไลน์ที่เรียกว่า 132.5 ที่อิซเซ่ มิยาเกะ พัฒนาร่วมกับ Reality Lab ทีมงานช่วงทดลองของเขา พัฒนาเสื้อผ้ากระเป๋าที่มีพื้นฐานจากเรขาคณิตในแบบสองมิติ แล้ว "ยืด" ออกมากลายเป็นรูปทรงสามมิติที่สวมใส่ได้ ข้อดีก็คือพับเก็บง่าย แถมนำวัสดุรีไซเคิล มาปั่นรวมกับขวดน้ำแบบ PET รักษ์โลกเข้าไปอีก!



อันนี้เขาโชว์การ "ดึง" ขึ้นมาก็จะกลายเป็นเสื้อแขนกุด



กระเป๋าใบนี้เป็น 132.5 เหมือนกัน ที่ร้านแนะนำว่าเด็ด แต่เราว่าเฉยๆ



มาต่อกันที่ Pleats Please แบรนด์ฮิตของสาวไทย ที่เหมือนเป็นการต่อยอดความสำเร็จของเทคนิคการจับจีบที่อิซเซ่ ได้สร้างสรรค์ไว้จนกลายเป็นอีกหนึ่งซิกเนเจอร์ ที่มีน้ำหนักเบา และช่วยพรางรูปร่างของผู้สวมใส่ได้ในระดับนึง คอลเล็กชั่น Pre-Fall 2016 ที่เพิ่งเข้ามาที่ร้าน ได้แรงบันดาลใจจากลวดลายบนเครื่องปั้นดินเผา แต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นบ้านเชียงหรือเปล่านะ



มาดูดีเทลของลวดลายกันอีกนิด



อันนี้เป็นเครื่องประดับของ Pleats Please ในคอลเล็กชั่นใหม่เลย เห็นกระเป๋าโถดินเผานั่นมั้ย



ความดีงามคือกระเป๋าเป๋าจับจีบ ดีไซน์งาม แปลกตา



นี่งัย กระเป๋าโถดินเผา



มาร้าน อิซเซ่ มิยาเกะ จะไม่พูดถึงกระเป๋าสุดฮิตตลาดแตกใบนี้ได้อย่างไร Bao Bao กระเป๋าที่นำรูปสามเหลี่ยมเรขาคณิต มาต่อกันจนเป็นรูปกระเป๋า ที่จะแปรผันไปกับของที่ใส้ และรูปแบบที่เราถือ ตอนที่เข้าไปนั้นเพิ่งเอากระเป๋าไซส์ใหม่ ทรงใหม่ สีใหม่ ดังรูปบนมาพอดี ก็เพิ่งรูปว่าสีแมตต์ (สีด้าน) ราคาแพงกว่าแบบเงาๆ



พนักงานบอกว่า ใบนี้ ทรงนี้ ไม่มีขายที่ญี่ปุ่นนาจา ไทยแลนด์โอนลี่ (หรือเปล่าหว่า) ความจริงมีอีก 2-3 สี ไปดูที่ร้านเอง



กระเป๋าเป้ใบนี้ดิ เลอค่าที่สุด เสียดายที่มีแต่ไซส์เล็ก ...อืมม นางมาพร้อมค่าตัว 50K หือ!!!



อันนี้ภาพจากวันงานเปิดร้าน กับไลน์เล็กๆ ที่เรียกว่า me คือเป็นการออกแบบเสื้อที่เน้นน้ำหนักเบา ใส่ง่าย เข้าใจง่าย น่ารักๆ สไตล์ญี่ปุ่น ไม่วุ่นวาย ตามนั้น



จบชั้น G ก็ขึ้นไปต่อที่ชั้น M ซึ่งเป็นฟลอร์ของหนุ่มๆ กันบ้าง มีทางขึ้นในร้านเลย แขกไปใครมาก็ต้องมาถ่ายภาพ ณ จุดนี้



ก็โล่งๆ เหมือนชั้นล่าง ตามสไตล์ออกแบบของเขา สำหรับไลน์เสื้อผ้าชายนั้น หลักๆ ก็มีอยู่ 3 สิ่งด้วยกันคือ Issey Miyake Men, Homme Plisse และ Bao Bao



มาเริ่มกันที่ Homme Plisse ก่อน เพราะเป็นไลน์เสื้อผู้ชายล่าสุดของอิซเซ่ มิยาเกะ ที่ได้แรงบันดาลใจจากการสร้างสรรค์ Pleats Please ที่เน้นความง่าย น้ำหนักเบา และแบบที่ไม่ซ้ำใคร  ตอนนี้คอลเล็กชั่น Fall 2016 มาแล้วนะจ้ะ ในภาพบนนี้คือคอลเล็กชั่นใหม่ทั้งหมด



มีเรื่องจะเล่า ด้วยความที่ไลน์ผู้ชายนี้เพิ่งเปิดตัวแค่ปี-สองปี และตอนที่เปิดก็มีจำหน่ายแค่ที่ Reality Lab อาโอยามา โตเกียว ตอนนั้นก็มุ่งหน้าตามหาถึงแหล่ง โหยย เสื้อจับจีบเสียจนไม่กล้าใส่ คงต้องไปหาเพื่อนสาวที่สวม Pleats Please เพราะคล้ายกันมาก ผ่านมาหลายซีซั่น เออ ตอนนี้เขามีแบบที่ดูใช้ได้จริง ไม่อวกาศ หรือลากไปไกลนัก เพิ่มเสน่ห์ให้กับทั้งยูนิฟอร์ม และลำลอง ให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปจากเดิม



แจ๊กเก็ตขายดี ที่พนักงานภูมิใจนำเสนอ



กางเกงฮาเรม พอมาเป็นกางเกงจับจีบแบบผู้ชายก็ดูเก๋ไก๋ขึ้นมาทันที ใครรักไลน์ผู้ชายจับจีบ ต้องไม่พลาดชิ้นนี้ (จริงๆ ตัวนี้ไม่จับจีบเท่าไรนะ แต่เป็นการเล่นกับลายทางสีขาว และผ้าย่นยืด)



มาถึงไลน์หลัก Issey Miyake Men กันบ้าง ก็เสื้อผ้าผู้ชายที่บอกความเป็นอิซเซ่ มิยาเกะเต็มที่ และสไตล์ญี่ป่นเต็มพลัง คอลเล็กชั่น Fall 2016 ก็เพิ่งจะเข้ามาใหม่เช่นกัน อันนี้ต้องขอตัว เพราะไม่มีข้อมูลคอลเล็๋กชั่นมาเม้าท์มอยมากนัก เอาเป็นว่าเน้นสีดำ และน้ำเงิน



ก็ดูคอลเล็กชั่นหน้าร้อนไปพลางๆ ละกัน ก็เน้นความสดใส ความฟิวเจอร์ และเนเจอร์



กางเกงยีนส์ ทำลายดูเท่ดี



รองเท้าดูลุยๆ ดี



และในส่วนของ Bao Bao Men หรือที่เขาเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Bao Bao Sports เพราะผู้หญิงก็สนใจไม่น้อยผู้ชาย และแบบก็ดูจะสปอร์ตๆ ลุยๆ ก็เลยตั้งชื่อให้ใหม่ ก็เน้นแบบคลาสสิก แต่เปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ ตามฤดูกาล นี่ก็รอแบบใหม่ๆ อยู่นะ



อันนี้ก็คอลเล็กชั่นลายพราง ก็เลือกเอาตามความชอบ



จบการพาเดินเล่น และชมคอลเล็กชั่นใหม่ๆ ของช็อปอิซเซ่ มิยาเกะ โฉมไหมไฉไลกว่า และแน่นอน ใหญ่กว่าเดิม ณ สยามดิสคัฟเวอรี่

ไหนก็พูดถึงร้าน Issey Miyake ก็กลับไปอ่านเรื่องก่อน บุก New Siam Discovery! ซอกแซกทุกชั้น ทุกแผนก! กันด้วยนะ

No comments: