Siam Discovery โฉมใหม่เปิดแล้ว เมื่อวานที่เขาให้สื่อมวลชนไปสำรวจศูนย์ ซึ่งก็ได้มีโอกาสไปเดินชมกะเขาด้วยเหมือนกัน ตอนแรกก็แค่ตั้งใจว่าจะทวีตเล่าไปเรื่อยให้ฟอลโลเวอร์ได้อ่านกัน (@koko_watt) แต่ไหนๆ สำรวจแทบจะทุกชั้นทุกแผนก ตั้งแต่ 10 โมงเช้า เรื่องไปจนถึงบ่ายสามครึ่ง ก็ขอเอามารวมในบล็อกสักหน่อย (ภาพบน: สยามพิวรรธน์)
หลายคนคงทราบแล้วว่า สยามดิสคัฟเวอรี่โฉมใหม่ ได้ทีมดีไซน์ระดับโลกอย่าง Nendo นำโดยคุณโอกิ ซาโตะ ก็เลยจะมีไอเดียเด็ดๆ แฝงไปในทุกชั้นทุกแผนก แต่เอาล่ะ แต่รายละเอียดเหล่านี้ หาเอาจากสื่ออื่นละกัน ตอนนี้ขอพาชมไปเรื่อยๆ ดีกว่า
ชั้น G - Her Lab
ต้อนรับด้วย Mister Discovery ที่คุณโอกิ ซาโตะ สร้างสรรค์ขึ้น แล้วจึงเชิญคนดังหลากหลายท่านมาร่วมแต่งตัว อันนี้เอาคิตตี้มาให้ดู
ข้างๆ ทางเข้าก็จะเจอร้าน Issey Miyake ก่อนใคร ต้องเรียกว่าเป็นแฟลกชิฟสโตร์ที่มาครบทุกไลน์ ใหญ่ถึง 2 ชั้น แต่ขอเริ่มที่ชั้น G ก่อน ซึ่งก็จะอุดมไปด้วยคอลเล็กชั่นผู้หญิง
ไลน์ 132.5 Issey Miyake เป็นรูปแบบที่มีวิธีการใช้แปลกทีเดียว แปลกยังไง ไว้เอามาเล่าอีกทีวันหลัง
ฝั่งตรงข้ามเป็น Comme des Garcons ร้านใหญ่สุด (ก็มีแต่ 2 สาขาเอง) ร้านนี้มีของใหม่คือไลน์เสื้อผู้ชาย และ...
Comme des Garcons Girl ไลน์เสื้อผ้าน่ารักๆ ในแบบกอมม์ เออ มันน่ารักจริงๆ นะ
พื้นที่ส่วนกลาง ตอนนี้นำไลน์เครื่องประดับทั้ง กระเป๋า และผ้าพันคอ Discorsd' by Yohji Yamamoto ออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ตำนานอย่าง โยห์จิ ยามาโมโตะ โดยในการนี้ก็นำเสื้อผ้าชุดเด่นมาประกอบการแสดงนี้ด้วย ซึ่งก็เป็นโอกาสดีที่ได้ดูผลงานเจ๋งๆ ของเขาไปในที
ในแต่ละชั้นจัดวางสินค้าคละเคล้ากันไปในแบบที่เหมือนเดินเข้าไปใน selected shop คือแบรนด์นั้นนิด แบรนด์นี้หน่อย แบรนด์โน้นแขวนบนราวนี้ แบรนด์นี้วางบนโต๊ะตัวนี้ แต่จัดไว้อย่างเป็นสัดส่วน ไม่ปะปนกัน
พื้นที่กระเป๋า+รองเท้าสตรี ที่ชั้น G หนึ่งในดีไซน์ของนันโดะ ที่ควรต้องมาเดินชม
ห้องลองเสื้อ ดูราวกับคาเฟ่
จริงๆ ชั้นนี้ยังมีอีกหลากหลายแบรนด์ของ Club21 ทั้งที่เปิดเป็นช้อปเลย หรือเป็นคอนเนอร์นึง อาทิ Rag & Bone, Diesel และ DKNY เป็นต้น รวมทั้งแบรนด์เด็ดๆ อย่าง Marimekko และกล้องไฮเอ็นด์ Leica
ชั้น M - His Lab
ขึ้นมาชั้น M ของผู้ชาย ก็ดูขรึมๆ แมนๆ แต่แอบมีเส้นสาย
ก็ต้องมาหยุดมองที่ Pur-Suit แผนกเสื้อผ้าทางการของหนุ่มๆ อยากได้ทางการแบบไหน รายละเอียดแบบใด มีให้ครบ จบที่เดียว
ถัดมาเป็นแผนกเครื่องประทินผิวขาย คือสวยด้วยดวงไฟทั้งบนโต๊ะ และห้อยจากเพดาน สวยจัด
ก็ยังคงคอนเซ็ปต์ เซเล็กเต็ดช้อปเหมือนเดิม มีแบรนด์ผู้ชายเรียงรายมากมายอย่างเป็นระเบียบ มาถึงตรงนี้ ควรมองลง ดูกระเบื้องปูพื้นสวยๆ
มุมในสุดเป็นชั้น 2 ของ Issey Miyake อุทิศให้ไลน์เสื้อผ้าหนุ่ม รวมทั้งไลน์พลีทพลีสที่ชื่อ Homme Plisse Issey Miyake
มีแกเลอรี่เล็กๆ ของ Galerie Adler อยู่ตรงมุมชั้น M ด้วยนะ
ระหว่างร้านอิซเซ่ และแกเลอรี่ มองเห็นทางเข้าสยามดิสฯ ก็มองเพลินๆ ดีนะ
แกงค์กระเป๋า Porter ก็มา
อีกฝั่งมีร้าน Hackett จากอังกฤษ มาทั้งเสื้อลำลองและแบบเป็นทางการ
มีนิทรรศการของ Black Egg ที่ให้นำ IG ของคุณๆ มาสร้างสรรค์เป็นงานแสดงส่วนตัว ไปลองเล่นดูนะ
ชั้น 1 - Street Lab
ขึ้นมาบนชั้น 1 เป็นสไตล์สตรีท สปอร์ต และยีนส์ หลากหลายแบรนด์ อย่าง Vans เขานำรองเท้าสีขาวให้ตกแต่งลวดลายตามใจฉัน
ยีนส์ของ Vanquish ร่วมกับ Fragment ก็มา
อีกมุมสวยๆ บนชั้น 1 ในโซนกระเป๋า และรองเท้าสปอร์ต
รองเท้าแบรนด์ Victoria แบรนด์เก่าแก่ของสเปน จุดเด่นคือเป็นรองเท้าที่มีกลิ่นหอมฟุ้ง ยืนห่างๆ ยังได้กลิ่นเลย
จุดนี้เอาไว้จัดแสดงแว่น และนาฬิกา
E-Jeans แบรนด์ยีนส์พรีเมียมจากญี่ปุ่น อันมีที่มาจากบริษัทผลิตยีนส์เก่าแก่ของญี่ปุ่น ที่ผลิตยีนส์ดีๆ ให้กับแบรนด์ดังมากมาย รู้แล้วจะหนาว!
เออ ชั้นนี้มี adidas และ Nike ร้านเบ้อเริ่มด้วยนะ! แต่ไม่ได้ถ้ายรูปมา
ชั้น 2 - Digital Lab
เดินขึ้นมาก็เจอ Loft อยู่ตรงหน้า
ชั้นนี้เป็นชั้นขายกั๊ดเจ็ตเก๋ๆ เท่ๆ สนุกๆ
ชอบกล้อง Lomo ก็มีมาเยอะเลย
มุมครีเอทีฟสวยๆ อีกละ
แฟน Yayoi Kusama ก็นี่เลย
ส่วนนี่ของ Lisa Larson ศิลปินสแกนดิเนเวียน
ข่าวดีของแฟนๆ Moleskine คือ มีร้านขนาดย่อมมาเปิด จัดเต็มเครื่องหนัง เครื่องเขียน และสมุดโน้ต ที่ตอนนี้เขามีบริการพิมพ์ข้อความบนปกสมุดโน้ตด้วย
ปิดท้ายชั้นด้วย Starbucks สาขาที่แต่งร้านแปลกตา (นิดนึง) มีเก้าอี้นั่งดื่มกาแฟไซฟ่อนด้านหน้า
ชั้น 3 - Creative Lab
Habitat กลับมายังบ้านดิสคัฟเวอรี่แล้ว
Hay เครื่องแต่งบ้านงานดี ราคาดี จากอิตาลีก็มาด้วย
ของแต่งสวนก็มา
ร้าน Thann ที่อยู่มุมสุด แต่มีทีเด็ด เพราะขน Bath salt มาจำหน่ายเฉพาะที่สยามดิสฯ ความเก๋คือ มาพร้อมกุหลาบคุณภาพเดียวกับที่นำไปทำชา บวกกับเกลือทะเลจากออสเตรเลีย ในแหล่งเกลือที่ได้ชื่อว่าสะอาดติด 1 ใน 3 ของโลก
ข้างๆ กัน มีคาเฟ่เล็กๆ น่ารักๆ อยู่สองร้าน คือ Brave และ Cafe New ต่างสไตล์เลือกตามใจชอบ
ข้างๆ กันมีอีกทีก็เป็น Room Concept Store และ ภูฟ้า ที่คุ้นเคยกันดี
วนกลับมาที่เดิม มีพื้นที่สินค้าน่าดูคือ Fornasetti ขนของมาขายเพียบเลย
Tom Dixon นำงานสวยๆ ราคาดี มานำเสนอผู้มีหัวใจดีไซน์ทั้งหลาย
ชั้น 4 - Play Lab
ขึ้นมาถึงก็มีตลาดย่อมๆ ให้นั่งกินดื่มพักเหนื่อย (อันนี้งง)
ตัดภาพมาที่ Tokyobike มาครบทั้งจักรยาน และเครื่องประดับจักรยาน
ชั้นนี้มีของกระจุกกระจิก และสรรพสิ่งฮิปสเตอร์ ทั้งหนังสือ ดีวีดี ไวนิล ฯลฯ ไปจนถึงของที่ระลึกนักท่องเที่ยว
และก็มีของเล่นอย่าง Playstation 4 และเหล่าตุ๊กตุ่นตุ๊กตา
ตบท้ายด้วยน้องช้าง Elephant Parade ก็เพิ่งรู้ว้าไม่ใช่ของคนไทย
โหยยย กว่าจะจบ! คอมพ์ค้างไปหลายรอบ
จริงๆ มีอีกหลายร้าน ที่ไม่ได้พูดถึง เพราะเดินนานมาก และเหนื่อยร่างมาก เอาเป็นว่าไปเดินสำรวจเพิ่มเติมกันเองนะ
No comments:
Post a Comment