เดือนที่แล้วทางเซ็นทรัลเวิลด์ กรุณาชวนไปสัมภาษณ์เกี่ยวกับเทรนด์แฟชั่นของฤดูใบไม้ผลิและร้อน 2009 สำหรับเป็นสกู๊ปให้แก่บรรดาสื่อมวลชวนต่างๆ โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์รายวัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการโปรโมตกิจกรรม CentralWorld Runway to Realway Spring-Summer 2009
เห็นว่าไหนๆ ก็พูดไปแล้ว ไม่อยากให้เสียของ ก็ขอนำบทสัมภาษณ์ที่เขาเรียบเรียงแล้วสำหรับส่งให้สื่อมวลชน มาลงในบล็อกนี้
(หมายเหตุ: นามสกุล ก็สะกดผิด แถมเมโทรไลฟ์ นิตยสารเล่มแทรกของผู้จัดการ ก็ลงรูปสลับกับคุณวัชรินทร์ ผ่องใส ต้องขอโทษคุณวัชรินทร์ มา ณ ที่นี้)
"เทรนด์ Ready-To-Wear สำหรับผู้หญิงในปีนี้บนรันเวย์จะย้อนกลับไปที่ยุค'80s ออกแนวอวองต์การ์ด (Avant Garde) ดูออกไปทางอวกาศ เส้นลายกราฟฟิกแบบ Geometric ก็มีไม่น้อย ดูเปรี้ยวด้วยเสื้อโครงชัดแจ๊คเก็ตหนุนไหล่ มี Shape กางเกงหลวมขึ้นไม่รัดเปรี๊ยะเท่าที่ผ่านมา และหันมาเล่นที่เอวสูงมากขึ้น นอกจากนี้แนว Tribal ที่ดูเป็นชนเผ่า ผ้าลายพิมพ์ต่างๆ accessories กลับมามีบทบาทสำคัญอีกครั้งสำหรับการ Mix&Match ไม่ว่าจะเป็นกำไลเรซิน, เครื่องประดับที่ทำจากไม้, ลูกปัดสีเม็ดโต ล้วนเป็นชิ้นสำคัญในซีซั่นนี้
Spring-Summer 2009 เสื้อเรียบๆ แต่เน้นเทคนิคแพชเวิร์ค ด้วย texture แบบต่างๆเป็นของที่มาแรง รองเท้าส้นสูงปรี๊ดไร้แพลทฟอร์ม ผสมกับเดรสหรือขาสั้นเน้นช่วงขาเรียวยาวอย่างลงตัว ส่วนชายหนุ่มยังเน้นแบบเรียบง่าย แต่มีดีเทล เช่นเสื้อตีเกล็ด หรือการใส่หลายชิ้นแบบมีแจ็คเกตทับก็เป็นอะไรที่คลาสสิคแต่ไม่ตกยุค โทนสีเป็นสีจัด แต่หม่น ไม่สว่างจ้าสดใสจนเกินไปนัก สีฟ้า-น้ำเงินยังคงครองความนิยม นอกจากนี้สีนู้ด สีน้ำตาล และสีเบจก็ยังคงอยู่กระแส
เทรนด์การแต่งหน้าโทนเนเชอรัลลุค (Natural Look) อยู่ไปอีกหลายปี สาวๆหนุ่มเตรียมผิวดีๆ เพราะเป็นลุคที่เน้นความงามของผิวเป็นสำคัญ หากต้องการแต่งแต้มสีสันที่เปลือกตาสโมคกี้อายสีเข้ม โทนดำเท่านั้น อายไลเนอร์เป็นอาวุธชิ้นสำคัญที่สาวทุกคนควรพกไว้ในกระเป๋า ปากสีแดงจะเข้มขึ้นในซีซั่นนี้ ไม่ใช่แดงสว่างไสวอย่างที่ผ่านมา
เศรษฐกิจอย่างนี้จะให้ Total Look ออกมาจากรันเวย์ (Runway) คงไม่ไหว ในเรียลเวย์ (Real way) เราคงต้องหันกลับมามองความจริงแล้ว Mix&Match ข้าวของที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ใส่อะไรก็ใส่ ขอให้เป็นสไตล์เรา ดูดีก็พอแล้ว"
อันที่จริงให้สัมภาษณ์ยาวกกว่านี้ ทั้งรายละเอียดของเทรนด์แฟชั่น และประเด็นอื่นที่จะกล่าวต่อไป แต่ทางเซ็นทรัลเวิลด์คงอยากให้เน้นเรื่องของแฟชั่นบนรันเวย์ ส่วนของคุณวัชรินทร์ เน้นมิกซ์&แม็ตซ์ แบบเรียลเวย์
ประเด็นที่ผมเน้นจริงๆ อยู่ที่คนเรามีตัวเลือกการแต่งกายมากที่สุด แต่งอย่างไรก็ได้ให้ถูกกาละเทศะ เพราะทุกวันนี้ โลกแคบลงด้วยอินเตอร์เน็ต ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เท่าเทียบ เกิดเป็นกลุ่มสังคมที่มีลักษณะความชอบแบบเดียวกัน แม้จะไม่ใช่กลุ่มใหญ่ แต่พวกเขาก็กล้าที่จะแต่งกาย และใช้ชีวิตแบบนี้น นักออกแบบเดี๋ยวนี้จึงเสนอเสื้อผ้าหลากหลายแบบ ทั้งที่ตามแนวโน้นเทรนด์แฟชั่น ทั้งที่เป็นสไลต์ของห้องเสื้อหรือนักกออกแบบ และเทรนด์แฟชั่นที่มาจากคน หรือในสังคม
เสื้อผ้าจึงไม่ใช่อะไรที่คนจะต้องทุ่มซื้อแบรนด์ราคาแพงเหมือนเช่นแต่ก่อน หากก็จะเลือกสวมใส่แค่ชิ้นสองชิ้น แล้วแม็ตซ์กับเสื้อผ้าแบบอื่นที่ราคาไม่ต้องแพงนักก็ได้ เห็นได้ชัดว่า เดี๋ยวนี้แบรนด์แฟชั่นที่ราคาย่อมเยาว์ โตวันโตคืน ทั้ง H&M, Zara, Target หรือ TopShop จนนักออกแบบรุ่นใหญ่ก็หันมาแจม รับเชิญออกแบบคอลเล็กชั่นพิเศษให้แก่แบรนด์ราคาย่อมเยาเหล่านี้กันจนเป็นปกติ
อีกประเด็นหนึ่งที่สนับสนุนจุดที่ว่าแฟชั่นหลากหลาย และเปลี่ยนไปเร็ว โดยที่แฟชั่นจากรันเวย์ บางทีก็ไม่จำเป็นต้องตามมาฮิตบนเรียลเวย์ ปัจจุบันแบรนด์เสื้อชั้นนำ จึงนำเสนอคอลเล็กชั่นถี่ขึ้นกว่าเดิม เช่นแต่เดิม เราจะเห็นแฟชั่นโชว์แค่ สองฤดูกาลต่อปีคือ Spring/Summer และ Fall/Winter แต่เดี๋ยวนี้จะได้ยินชื่อของ Cruise หรือ Resort (ที่แต่เดิมทำออกมาเพื่อเอาใจเจ็ตเซ็ตหนีหนาวไปรับลมร้อนแถบประเทศใกล้เส้นศูนย์สูตร จึงเน้นความเรียบง่าย และสไตล์ชายหาด แต่เดี๋ยวนี้ดีไซน์เนอร์ต่างยัดความอลังการลงไป จนเหมือนคอลเล็กชั่นหลักไปแล้ว)
รวมทั้งคอลเล็กชั่นอย่าง Pre-Fall หรือบางที่ก็มี Pre-Spring ที่เน้นแบบเรียบง่ายๆ ล่าสุดจะได้ยินชื่อ Capsule อันเป็นคอลเล็กชั่นคลาสสิก ที่ทำขึ้นเพื่อให้สามารถสวมใส่กับอะไรก็ได้
ดังนั้นจะให้พูดกันจริงๆ แฟชั่น ไม่ได้มาจากรันเวย์เสมอไปอีกต่อไป หากแต่เรียลเวย์ ก็สามารถสร้างสรรค์รูปแบบของตนเอง ที่หลายครั้งหลายคราว ก็ย้อนกับไปเป็นเทรนด์บนรันเวย์ด้วยเช่นกัน
No comments:
Post a Comment