26 December 2008
11 December 2008
CHANEL Cruise Collection 2009 (Behind the sense)
09 December 2008
08 December 2008
Schiffer VS Madonna
ในความหดหู่ของเศรษฐกิจ ที่กำลังคืบคลานเข้าไปสู่แบรนด์เนม (โดยเฉพาะ คาดการณ์ว่าแบรนด์เครื่องเฟชรจะได้รับผลกระทบมากสุด ...ถ้าไม่นับแฮร์รี่ วินสต้น ที่ถูกโจรกรรมครั้งใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส กลางกรุงปารีส กลางวันแสกๆ!!) ก็มีเรื่องที่ต้องตามติด คือการหวนกลับมาของซูเปอร์นางแบบอีกคนหนึ่ง (หลังจากที่มัวแต่ใช่นาโอมิ เสียจนพรุน) นั่นคือ Claudia Schiffer ที่ปีนี้อายุ 38 ปี แล้ว
01 December 2008
Mademoiselle Currency
ปีนี้ (2008) และปีหน้า (2009) อาจจะเป็นปีที่ไม่น่าจดจำสำหรับหลายๆ ประเทศ หลายๆ คน ทว่าสำหรับ Chanel แล้ว ปีนี้และปีหน้า ถือเป็นวาระอันมีความหมายยิ่งสำหรับแบรนด์ กล่าวคือปี 2008 คือปีที่ Gabrielle Bonheur 'Coco' Chanel มีอายุครบ 125 ปี (ถ้ายังมีชีวิตอยู่นะ) และปี 2009 คือปีที่ห้องเสื้อชาเนล จะมีอายุครบศตวรรษ
27 November 2008
โดยฉับพลัน !
ทุกอย่างต้องสงบโดยฉับพลัน"
พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
วันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๖
24 November 2008
Bill Blass deads again!!
ภายหลังการเสียชีวิตของ Bill Blass เจ้าตำนานอเมริกันแฟชั่นอีกผู้หนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ก็พลอยทำให้อนาคตของบริษัทดูมืดมนไปชั่วขณะ กระทั่งได้ Peter Som อัศวินขี่ม้าขาวมากู้สถานการณ์
แต่บัดนี้อัศวินก็ควบม้าขาวจากไปภายหลังเปิดตัวคอลเล็กชั่นฤดูร้อน 2009 ที่นิวยอร์กแฟชั่นวีคได้ไม่นาน หลังจากหมดสัญญาและยังไม่ได้ต่อสัญญา อันเนื่องจาก NextCen บริษัทแม่เจ้าของแบรนด์ บิลล์ บลาสส์ และแบรนด์บิลล์ บลาสส์ ต่างประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงินด้วยกันทั้งคู่ (เรียกง่ายๆ ว่าไม่มีตังค์จ้างปีเตอร์แล้ว)
20 November 2008
She is Sasha Fierce
อีกหนึ่งเครื่องแต่งกายที่ฮือฮาไม่แพ้เดรสของ มิเชล โอบาม่า ในคือวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ก็มาถึงเดรสสุดแสนล้ำ จากผลงานออกแบบของ Gareth Pugh ดีไซน์เนอร์ดาวรุ่งพุ่งแรง (สูง) จากอังกฤษ บนร่างของ Beyoncé (...ไม่สิ เวอร์ชั่นนี้ต้องเรียกเธอว่า Shasha Fierce) ในงานเอ็มทีวี ยุโรป มิวสิค อวอร์ด ที่เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ
17 November 2008
My Monogram (of course, I wish !!)
13 November 2008
11 November 2008
07 November 2008
A Dress to Kill
06 November 2008
Change & Hope (What's next?)
04 November 2008
Halloween's Best Dress...Ever!!!
ตั้งแต่เห็นปาร์ตี้แฟนซีสำหรับเทศกาลฮาโลวีน ไม่เคยมีครั้งไหน และใครจะ 'Cool !' เท่านี้อีกแล้วว
"Heidi Klum Halloween Party" เมื่อคืนวันศุกร์ฮาโลวีน กลางกรุงนิวยอร์ก ไม่มีใครแต่งตัวได้เลิศเกินเจ้าภาพซูเปอร์โมเดล Heidi Klum ได้อีกแล้ว
ไฮดิ แต่งกายเป็นเจ้าแม่กาลีแบบครบองค์ทรงเครื่อง ตั้งแต่ศรีษะจรดเท้า ซึ่งก็ไม่รู้ว่าชาวฮินดูจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับการแต่งกายเช่นนี้
ขณะที่สามีนักร้อง Seal ดูจะมั่วๆ งงๆ นิดหน่อย เพราะบอกนักข่าวว่าเป็นนักรบ (อะไรสักอย่าง ฟังไม่ออก) รายงานข่าวบ้างก็บอกว่า เป็นเจงกิสข่าน แต่เรากลับเห็นเป็นองค์คุลีมาร เนื่องจากมีนิ้วมือห้อยรอบคอ ทว่าเสื้อผ้าดูจะไม่ค่อยเนียนไปกับเครื่องประดับ
ส่วน Pink แต่งกายเป็นตัวตลกแสนเศร้า (เศร้าตรงไหนเนี่ยะ!)
ฮาโลวีนปาร์ตี้ที่จัดโดยซูเปอร์โมเดลคนสวย มาพร้อมคอสตูมเลิศๆ เช่นนี้ทุกปี ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 9 แล้ว สำหรับปีหน้าครบทศวรรษ ใครๆ ก็หวังว่าจะต้องอลังกว่านี้แน่นอน ...เพราะช่วยไม่ได้ที่ปีนี้แต่งได้อลังการงานสร้างสุดๆ
เอาเป็นว่า ใครเลิศกว่านี้ ขอยลหน่อยเหอะ!
02 November 2008
Good Enough?
31 October 2008
24 October 2008
Zaha Hadid & Co
ก็ต้องรวม Zaha Hadid ที่เหล่าแบรนด์เนมต่างดึงตัวไปร่วมสร้างสรรค์งานชิ้นพิเศษมากมายหลายเจ้า อันว่าฮาดิด คือสถาปนิกแห่งอนาคตเชื้อสายอิรัก เจ้าของรางวัล Pritzker Architecture คนแรกและคนเดียวที่เป็นผู้หญิง ศักดิ์ศรีของรางวัลนี้เปรียบได้กับโนเบลแห่งวงการสถาปัตยกรรม
21 October 2008
Tokyo is not enough !!!
20 October 2008
A Night to Remember
คืนที่ผ่านมา เป็นปาร์ตี้ที่สนุกสุดของปีนี้ ที่มีโอกาสได้ร่วมงาน เหตุเพราะเป็นปาร์ตี้ที่เริ่มจากความเหนื่อยล้า จบลงด้วยความตระการตา ของแฟชั่นโชว์ครบรอบ 20 ปี ของห้องเสื้อ Zenithorial
พลันสิ้นเสียงปรบมือให้กับเจ้าภาพ ลูกบอลกระจกจำนวนมาก ก็เลื่อนลงมาจากเพดาน แสงไฟสาดส่อง เสียงดนตรีดังก้อง เนรมิตเต้นท์แฟชั่น ให้กลายเป็นเต้นท์ปาร์ตี้ และแคทวอล์ก กลายเป็นแดนซ์ฟลอร์ เพื่อร่วมฉลองในความสำเร็จของ ELLE Fashion Week ที่เดินทางมาครบทศวรรษ
มีโอกาสร่วมชมโชว์ตั้งแต่โชว์แรก ของปีแรก และ (อาฟเตอร์) ปาร์ตี้แรก ของ ELLE Bangkok Fashion Week ที่ต่อมาเหลือแค่ ELLE Fashion Week และเพิ่ม Autumn/Winter และ Spring-Summer เมื่อไม่นานนี้
ครั้งแรก เต้นท์แฟชั่นขนาดกะทัดรัดจัดขึ้นที่ ลานกว้างข้างศูนย์การค้า เกษร และอาคารเพรสซิเด้นท์ (รร.อินเตอร์คอนติเนนทอล ในปัจจุบัน) ต่อมาขยายความมหึมาของเต้นท์ ด้วยการย้านไปจัดที่ลานมรกต ห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล ชิดลม ที่อยู่ไม่ไกลกัน กระทั่งมาถึงเต้นท์แฟชั่นที่เห็นมาจนถึงปัจจุบัน ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
แอลล์ แฟชั่นวีค ถือว่าทำให้เกิดการแสดงแฟชั่นของนักออกแบบไทยอย่างเป็นระบบ ให้นักออกแบบไทย ได้มีเวทีแสดงการสร้างสรรค์เสื้อผ้าสุดสวยอย่างต่อเนื่อง และเป็นสร้างมาตรฐานการแสดงแฟชั่นโชว์ไทย ที่สำคัญ เวทีของแอลล์ แฟชั่นวีค มีโอกาสสร้างนักออกแบบไทยรุ่นใหม่ หลายต่อหลายคน ที่ต่อมากลายเป็นนักออกแบบที่มีชื่อเสียงจนทุกวันนี้
ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ทำให้วงการแฟชั่น เกิดการแข่งขัน ในด้านการสร้างสรรค์มากขึ้น ทั้งการสร้างสรรค์เสื้อผ้าและเครื่องประดับ การสร้างสรรค์รูปแบบโชว์ การพัฒนาของนางและนายแบบ และเป็นแรงกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ๆ สนใจในเรื่องของแฟชั่นมากขึ้น ทั้งในด้านการเรียน การถ่ายภาพ การเป็นสไตลิสต์ หรือแม้แต่การเป็นนักเขียนแฟชั่น
เกิดผลทางอ้อมอีกประการหนึ่ง และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชาวแฟชั่น คือการเรียนรู้แฟชั่นอย่างเป็นระบบระเบียบมากขึ้น จากแต่ก่อน ที่เราเคยรับแฟชั่นมาเพียงเปลือกนอก (เหมือนการสร้างตึกรามบ้านช่องในบ้านเรา สไตล์ใครสไตล์มันจนเกิดเป็นทัศนอุจจาด) แต่งกายโดยการตามกันแต่ง หรือแต่งตามที่เห็น โดยไม่รู้ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร - บัดนี้เริ่มมีกลุ่มคนที่ให้ความใสใจกับรากฐานของแฟชั่น ที่มาที่ไปของแฟชั่น ทั้งหมดเกิดการการเรียนรู้ และต้องรู้อย่างถ่องแท้ เช่นเดียวกับการวางรากฐานทางสังคมและการเมือง ก็ต้องเริ่มที่การเรียน มิฉะนั้น ต่อให้ปฏิรูป ปฏิวัติสักกี่ครั้ง ผลก็เหมือนเดิม ...เปลือก!!!
แฟชั่นโชว์ก็คือหนึ่งกลไกหลักแห่งแฟชั่น ไม่ว่าจะโชว์เล็กโชว์ใหญ่ ล้วนคือเวลาที่จะพิสูจน์ถึงความสามารถ และการแสดงออกถึงภาพลักษณ์ของสังคมนั้นๆ ด้วย
ขอแสดงความยินดีกับก้าวที่ 10 และก้าวต่อไปอย่างแข็งแกร่งของ ELLE Fashion Week
17 October 2008
COCO before CHANEL
15 October 2008
Dior Homme Petite Taille Collection
สำหรับแฟน (ผู้หญิง) ของ Dior Homme โดยเฉพาะ...
เดิมดิออร์ ออม ตั้งแต่ครั้งออกแบบสุด slim โดย Hedi Slimane ก่อเกิดลูกค้ากลุ่มใหม่ของดิออร์ นั่นก็คือสาวๆ (ผู้หญิงน่ะ) หุ่นเพรียว เพราะแพทเทิร์นแบบเสื้อผู้ชาย ยังไงก็ต่างจากของผู้หญิง ผู้หญิงที่มาสวมเสื้อผ้าหนุ่ม โดยเฉพาะหนุ่มดิออร์ จึงทั้งเท่ และสวย (เอ๊ะ ยังไง)
ส่งไม้ผลัดมายังมือ Kris Van Assche ดีไซน์เปลี่ยนจากสลิมฟิต มาสู่รูปทรง V shape หมายความว่า ไหล่กว้าง เอวคอด ฉะนั้นต้องไม่ใช่แค่ผอมบางแบบสลิม แต่ต้องผอมและมีบอดี้ (โนพุง) ฤดูร้อนหน้า แวน แอซซ์ เพิ่มความสปอร์ต และสีสัน อย่างที่ไม่เคยใช้มากก่อน ซึ่งก็สนุกดี
โครงเสื้อรูปตัว V ก็เข้าทางสไตล์ทศวรรษที่ 80 สาวๆ ก็ยิ่งสบาย เพราะชอบเสื้อผ้าไหล่กว้าง เอวแคบ สังเกตว่า คอลเล็กชั่นฤดูหนาวนั้นทำได้นุ่มนวลเสียเหลือเกิน
ลูกเล่นของคอลเล็กชั่นฤดูหนาว หรือจะว่าไปก็ตั้งแต่แวน แอซซ์ เข้ามารับช่วงต่อ เปลี่ยนจากผึ้งตัวจ้อย มาเป็นผีเสื้อตัวเบิ้ม ทั้งโบไทรูปผีเสื้อ และเข็มปักรูปผีเสื้อ - ของประดับเหล่านี้นี่แหละที่เป็นสินค้ายอดนิยม โดยเฉพาะเข็มปักผีเสื้อ เป็นที่ฮิตของสาวๆ ทั่วโลก
เขียนมาหลายย่อหน้า จะบอกว่า ปี 2002 ดิออร์ ออม นำเสนอคอลเล็กชั่นพิเศษ 'Petite Taille' ที่ออกแบบสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ด้วยโครงที่นุ่มนวลขึ้น เซ็กซี่ขึ้น ไซส์เล็กลง ตามเสียงเรียกร้องของสาวๆ ทั้งปวง ทว่าไม่ได้จำหน่ายในทุกบูติก - ว่ากันว่าบูติกดิออร์ ออม นั้นมีน้อยอยู่แล้ว แต่หาคอลเล็กชั่นสุดพิเศษนี้ได้ยากเสียยิ่งกว่ายาก
อย่ากระนั้นเลย ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายนนี้ ณ ชั้น 4 แฟลกชิฟสโตร์ดิออร์ และดิออร์ ออม บนถนน Omotesando กรุงโตเกียว ดิออร์ ออม จะนำคอลเล็กชั่นพิเศษ 'Petite Taille' มาจัดแสดง และจำหน่ายเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในญี่ปุ่น และเอเชีย
ร่ายเสียยาว ไปดูของจริงกันดีกว่า
ปล. เคยขึ้นไปชั้น 4 นี้แล้วครั้งหนึ่ง เป็นห้องสำหรับจัดแสดงเสื้อผ้าสื่อมวลชน + ห้องจัดแสดงอเนกประสงค์ + ออฟฟิตดิออร์ ค่อนข้างอบอ้าว เนื่องจากหลอดไฟหลายดวง
10 October 2008
KVA mask
03 October 2008
Gadget Parade
01 October 2008
29 September 2008
Phoebe Philo for Celine
25 September 2008
KB
22 September 2008
H&M Tokyo
ไปก่อนวันเปิดร้าน 13 กันยายน ที่เพิ่งผ่านไป H&M สาขาแรกในโตเกียว (และญี่ปุ่น) บนโลเกชั่นใจกล้าท้าทาย ณ ย่านกินซ่าสุดหรูของกรุงโตเกียว แน่นอนว่าเหล่าหนุ่มสาวทั้งแนวและไม่แนว แห่แหนกันไป 'เข้าคิว' ดังเช่นทุกครั้งที่มีของใหม่ในญี่ปุ่น
ก่อนหน้าร้านเปิด H&M ปูพรมโฆมโฆษณาดังเช่นที่ทำเป็นปกติในทุกประเทศ บิลบอร์ดที่แน่นล้นบนชิบูยะ ยังมีแอด H&M เบียดแทรกเข้าไปได้ (ในรูปถ่ายจากอีกฝั่งของสถานีรถไฟ)
ดูจากรูปการณ์ ประชากรญี่ปุ่นไม่ได้ฮือฮาอย่างที่คิด ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะประชากรญี่ปุ่นก็แต่งตัวได้เปรี้ยวไม่แพ้ความเปรี้ยวจากดีไซน์ของ H&M สำหรับเรื่องราคาไม่ใช่ปัญหา ถูกแพงคงไม่สำคัญเท่าใด ความแปลกสิเก๋กว่า
คงต้องรอเวลาช้อปแตก ณ วันเปิดช้อปใหม่กลางฮาราจูกุ โลเกชั่นเด็ดดวงเพื่อนบ้านกับ Laforet ซ้ำในวันเปิดร้าน (เดือนพฤศจิกายน) จะเป็นวันแรกจำหน่าย Comme des Garcons for H&M แห่งแรกในโลก ซึ่งคาดว่าช้อปคงแตก เช่นเดียวกับที่กินซ่า และที่อื่นๆ ทั่วโลก
อัพเดต H&M บุกโตเกียวกันต่อที่ http://www.hm.com/jp_en/#/tokyo08/
18 September 2008
Birkenstock catalog
16 September 2008
13 September 2008
Louis Vuitton at Comme des Garçons Part III
คืนวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา ได้รับเชิญไปร่วมงานเปิดร้าน Louis Vuitton at Comme des Garçons บนถนนค็อตโตะ ณ ย่านอาโอยาม่า กรุงโตเกียว
ไปถึงก็สายแล้ว เพราะเหล่าเซเล็บ และสื่อมวลชนทยอยออกจากร้านเพื่อไปยังปาร์ตี้ ณ สถานที่เร้นลับ (ตามที่บัตรเชิญว่าไว้) อย่างไรก็ขอเข้าไปยลโฉมความอลังการที่ได้เห็นภายนอกเมื่อช่วงเช้า ซึ่งก็ไม่ใช่อย่างที่คิดเอาไว้เลย
เข้ามาข้างในประตู นอกจากพบความเรียบ และความขาวของสถานที่ ก็จะเห็นเคาน์เตอร์ปูนอยู่ขวามือ ข้างๆ ขวามือคือบันไดทางขึ้นชั้นสอง และห้องกระจกอยู่ซ้ายมือ ภายในห้องกระจกมีกระเป๋าเดินทางโมโนแกรมตั้งอยู่ 9 ใบ รอบข้างห้องกระจกนั่นคือผนัง และแท่นวางสินค้า สีทองพิมพ์ลายโมโนแกรมสีขาว
ทั้งบนแท่นว่างสินค้า และบนผนัง ต่างเจาะรูเอาไว้พอเหมาะพอเจาะกับกระเป๋า 6 ใบไฮไลต์อย่างกลมกลืน ดุจงานศิลปะในกรอบภาพ และแท่นวาง
ได้เห็นของจริงทั้ง 6 ใบอย่างใกล้ชิด พบว่า
1. ในและนอกกระเป๋า ไม่มีป้ายบ่งบอกความพิเศษของกระเป๋าคอลเล็กชั่นนี้
2. ใบที่คาวาคูโบสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ มีขนาดราวฝ่ามือ พร้อมหูจับขนาดยาวพิเศษ ซึ่งมิอาจใส่ของอะไรได้มากมาย นอกจากเศษสตางค์ บัตรเครดิต ลิปสติก หรือโทรศัพท์มือถือขนาดเล็ก เพราะคาวาคูโบได้แรงบันดาลใจจากกระเป๋าใส่เศษสตางค์ นำมาปรับเป็นกระเป๋าสำหรับไปงานราตรี หรือปาร์ตี้ ความหมายโดยนัยคือเพื่อเฉลิมฉลอง 30 ปี ช้อปวิตตองแห่งแรกในญี่ปุ่น
3. และกระเป๋าสองใบที่คาวาคูโบสร้างสรรค์ใหม่ คือใบที่งามที่สุด จากทั้งสิ้น 6 ใบ
4. กระเป๋าอีกสองใบ ที่คาวาคูโบปรับแต่ง ปรุงโฉม ก็น่ารักสมชื่อ ใบปาปิญองเหมาะใช้งานจริง ส่วนใบมินิ แม้จะดูใช้ยาก แต่ก็สามารถใช้งานได้จริง ไม่ยากอย่างที่คิดนัก
5. กระเป๋าสองใบสุดท้าย ที่นำของเก่ามาขายใหม่ หมายถึงเป็นสองใบที่วิตตองไม่ได้ทำแล้ว ที่ขายอยู่ในช้อปวิตตองทั่วไป เป็นแบบที่ประยุกต์ โดยเพิ่มขอบหนังบนฐานกระเป๋าทั้งสองข้าง ฉะนั้นสองใบในคอลเล็กชั่นนี้ ก็จะดูเก๋าเก๋กว่าปัจจุบัน
6. ตุ๊กตา 'Kawaeii' ทั้ง 3 ตัว ที่ห้อยอยู่บนหูกระเป๋าปาปิญอง 'น่ารัก' สมชื่อ แต่ก็ยังดูไม่ออกอยู่ดีว่าเป็นตัวอะไรบ้าง (พอจะคล้ายค้างคาวตัวนึงล่ะ)
ชั้นบนตั้งหีบเดินทางโบราณไว้ 3 ใบ ซึ่งก็น่าเป็นเข้าของทั้งสามใบ ไม่มีอะไรอย่างอื่นนอกจากนี้ และไม่สามรถจะขอซื้อหีบทั้งสามใบได้ และวันเปิดงานก็ไม่สามารถซื้อหรือจองกระเป๋าได้ หมายความว่าให้อย่างเดียว
เดินชมจนหน่ำใจก็ถึงคราวปาร์ตี้ ซึ่งสถานที่ลับนั้น อยู่ห้างไปราว 20 เมตร เดิมเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ สำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ ทว่ามีขนาดเล็ก พอๆ กับร้านกอมม์ ซึ่งก็พอดีกับจำนวนผู้ร่วมงาน ที่จะได้รับเชิญในจำนวนจำกัด และพิเศษสุดเท่านั้น
เดินลงไปพบกับภาพวิชชวลที่คาวาคูโบทำเพื่อโปรโมตกระเป๋าปาร์ตี้ที่เธอออกแบบ แล้วจึงพบห้องจัดงาน ฝั่งหนึ่งของกำแพงฉายแฟชั่นโชว์คอลเล็กชั่นกอมม์เดอการ์ฌองส์ ในอดีตเรื่อยมา ฝั่งตรงข้ามฉายภาพประวัติและคอลเล็กชั่นกระเป๋าและเครื่องประดับหลุยส์ วิตตอง กำแพงหว่างสองข้าง ก็ยิงภาพกราฟิกลวดลายโมโนแกรม
ซึ่งงานก็มีเท่านั้น ปาร์ตี้ กินดื่มอีกแล้ว แต่ที่สำคัญเป็นงานรวมตัวของเหล่าบรรณาธิการนิตยสารแฟชั่นชั้นนำของญี่ปุ่นทุกเล่ม รวมทั้งซีอีโอและประธาน หลุยส์ วิตตอง รวมทั้งผู้ก่อตั้ง และดีไซน์เนอร์ กอมม์ เดอ การ์ฌองส์ด้วย!!
อ่านเรื่องทั้งหมดได้ในนิตยสาร LIPS เร็วๆ นี้